7/01/2008

กองทุนรวมตลาดเงิน

สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องกองทุนรวมตลาดเงินให้ฟังกันนะครับ ถามว่าทำไมต้องเป็นกองทุนรวมตลาดเงินด้วย คือเมื่อผมเล่าเรื่องกองทุนรวมหลายๆประเภทเป็นการปูพื้นให้เข้าใจแล้ว ผมจะเล่าเรื่องการบริหารเงินของผมให้ฟังกันครับ ว่าผมทำยังไงถึงรวมเอาประโยชน์ในด้านที่แตกต่างกันของกองทุนรวมต่างๆมาบริหารเงินให้เกิดสภาพคล่องและผลตอบแทนอย่างสมดุลย์ ตามแผน หรือความต้องการที่เราได้วางไว้ครับ

ในปัจจุบันกองทุนรวมที่เรารู้จักกันนั้น มีการแบ่งออกเป็นหลายประเภทด้วยกัน ทั้งในส่วนของกองทุนตราสารทุนหรือกองทุนหุ้น กองทุนตราสารหนี้หรือหุ้นกู้ กองทุนรวมLTF RMF กองทุนรวมที่ลงทุนในต่างประเทศ ซึ่งในแต่ละประเภทของกองทุนนั้นก็สามารถแบ่งย่อยๆได้อีกมากมาย กองทุนรวมตลาดเงินนั้นเป็นหนึ่งในประเภทย่อยๆของกองทุนตราสารหนี้ครับ

กองทุนรวมตลาดเงิน (Money market fund) กองทุนรวมที่มีนโยบายการลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีคุณภาพและมีกำหนดชำระเงินต้นเมื่อทวงถามหรือมีอายุคงเหลือไม่เกิน 1 ปี กองทุนรวมตลาดเงิน มีนโยบายการลงทุนที่คล้ายคลึงกับ กองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ระยะสั้น มีความเสี่ยงต่ำสุด เหมาะสำหรับการลงทุน ระยะสั้นของผู้ลงทุนที่ไม่ต้องการความเสี่ยง”
-จาก website AIMC

จากนิยามของAIMC กองทุนรวมตลาดเงินนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการความเสี่ยง เพราะอะไรถึงบอกว่ากองทุนนี้มีความเสี่ยงต่ำ?

เพราะว่าตราสารหนี้โดยทั่วไปมีการแปรผกผันกับอัตราดอกเบี้ยครับ เช่นถ้าอัตราดอกเบี้ยหน้าตั๋วเท่ากับ3% เท่ากับอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาด แล้ววันดีคืนดีอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นไปจาก3%เป็น3.5% คำถามคือ จะเกิดอะไรขึ้นครับ คนก็จะขายตราสารที่ให้ผลตอบแทน3%เพื่อนำไปซื้อตราสารออกใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ย3.5%
และเมื่อมีการขายออกมามากๆ ก็จะทำให้ราคาของตราสารที่มีผลตอบแทน3%ลดลงทันที

ถ้าหากว่าเราไม่ขายออกไปเราก็จะไม่ขาดทุนจากราคาตลาดครับ แต่เราก็จะเสียโอกาสที่จะได้ผลตอบแทนที่มากกว่าเดิม ยิ่งถ้าอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นไป4-5-6-7%( สมัยวิกฤติต้มยำกุ้งเราเคยมีอัตราดอกเบี้ยเกือบๆ20%) แล้วเราถือตราสารที่ให้ผลตอบแทนแค่3% ก็เท่ากับว่าเราเสียโอกาสที่จะได้ผลตอบแทน4-5-6-7% ไปโดยปริยาย

แต่ถ้าหากว่าตราสารที่เราถืออยู่มีอายุที่สั้น เช่นไม่เกิน1ปี เมื่ออายุของตราสารนั้นครบกำหนด เราก็นำเงินที่ได้จากการลงทุนไปซื้อตราสารที่ให้ผลตอบแทนที่มากขึ้นได้ แต่หากเราถือตราสารที่มีอายุนานมากๆเช่น5-10ปี กว่าจะรอให้ตราสารครบกำหนด ตอนนั้นเราก็อาจจะเสียโอกาสได้ผลตอบแทนไปหลายปีเลยทีเดียว

ในความเป็นจริง กองทุนรวมตลาดเงินส่วนใหญ่มีอายุเฉลี่ยของตราสารประมาณ6เดือนเท่านั้นเองครับ บางแห่งมีอายุเฉลี่ย3-4เดือนก็ยังมี ดังนั้นในการปรับอัตราดอกเบี้ยแต่ละครั้ง กองทุนรวมตลาดเงินจะได้รับผลกระทบน้อยมาก เพราะอีกไม่กี่วันก็จะมีเงินบางส่วนไปซื้อตราสารหนี้ใหม่ๆที่ให้ผลตอบแทนสูงๆแล้ว

ส่วนในเรื่องของการขาดทุนจากการเบี้ยวชำระหนี้ของผู้ออกตราสารนั้นก็หมดห่วงไปได้เลยครับ เพราะว่ากองทุนรวมตลาดเงินมีการลงทุนส่วนใหญ่ใน พันธบัตรรัฐบาล ตั๋วเงินคลัง พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ และตราสารหนี้ของบริษัทที่มีความมั่นคงสูงมากๆเท่านั้น

ในส่วนของสภาพคล่องของกองทุนรวมเองก็มีสูงมากครับ กองทุนรวมตลาดเงินส่วนใหญ่จะได้รับเงินภายใน1-2วันนับจากวันที่ทำรายการขาย มีกองทุนแห่งหนึ่งได้รับเงินภายในวันที่ขายได้เลยด้วยซ้ำไป และเรื่องของสภาพคล่องนี้เป็นจุดที่บลจหลายแห่งนำมาเป็นจุดในการแข่งขัน ทำให้ในอนาคตเราจะได้เห็นกองทุนรวมตลาดเงินที่ได้รับเงินภายในวันที่ทำรายการหรืออย่างมากก็วันถัดไปมากขึ้นครับ

จากการที่มีความเสี่ยงต่ำนี่และมีสภาพคล่องที่ค่อนข้างสูงนี่เอง ทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากกองทุนรวมตลาดเงินในการบริหารเงินของเราได้มากเลยครับ หลายคนใช้กองทุนประเภทนี้แทนการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ เพราะว่าให้ผลตอบแทนที่มากกว่าในขณะที่มีสภาพคล่องใกล้เคียงกัน นักลงทุนหลายคนใช้เป็นที่พักเงินที่ยังไม่ได้นำไปลงทุน

วันนี้พอแค่นี้ก่อนนะครับ ตัวคนเขียนเองยังเบลอๆอยู่ เข้าใจว่ามีการใช้ศัพท์ทางการเงินไปเยอะพอสมควร(ไม่ค่อยDIYเท่าไหร่เลยวันนี้) เอาไว้คราวหน้าจะพยายามใช้คำศัพท์ทางการเงินให้น้อยลงนะครับ...สัญญา แล้วพอเรารู้เรื่องกองทุนรวมพอสมควรแล้ว เราก็จะมาสร้างกลุ่มกองทุนรวมเพื่อนำมาบริหารเงินของเรากัน เพื่อความมั่งคั่งแบบDIY อิอิ

No comments: